ตัวอักษร(character): ที่มีลักษณะเหมือนกันหรือเป็นชุดเดียวกันเรียกว่า Fonts เช่น angsana UPC, lily, cordia new, tahoma, arial
ประวัติความเป็นมาของสิ่งพิมพ์เริ่มต้นจากการประดิษฐิ์แท่นโลหะพิมพ์ โดย Johannes Gutenberg ในปี ค.ศ.1440 ทำให้เกิดระบบการพิมพ์เป็นจำนวนมากและการออกแบบตัวอักษรจึงเริ่มมีขึ้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
แท่นพิมพ์ออกแบบโดย Johannes Gutenberg ที่มา: http://pressproject.mtsu.edu ตัวโลหะที่ใช้เป็นแม่พิมพ์ ที่มา: http://www.aisleone.net |
ส่วนประกอบของตัวอักษร(font anatomy): ปัจจุบันมีองค์กรที่เรียกว่า the international standard organization (ISO) ตั้งอยู่ที่ Geneva ,Switzerland มีหน้าที่กำหนดมาตรฐานของตัวอักษรที่ใช้ในการพิมพ์ ขนาด ความสูง ลักษณะและรายละเอียดต่างๆของตัวอักษรที่สามารถอ่านได้ง่าย
ตัวอักษรภายใต้ ISO เน้นประโยชน์ใช้สอย และการใช้งานได้หลากหลาย ที่มา: Matthew Woolman.type detective story (Switzerland:Rotovision SA). 1997. p.13 |
ส่วนประกอบต่างๆของตัวอักษร ที่มา: Ibid., p. 18 |
ลักษณะการแบ่งระยะออกเป็นช่องย่อยๆจำนวน 72 ช่อง ต่อระยะ 1 นิ้ว ที่มา: Ibid., p. 55 |
topline, base line และ beardline
ระยะต่างๆในการออกแบบตัวอักษร ที่มา : Ibid., p. 35 |
ประเภทของฟอนต์
1. serif เป็นฟอนต์ทางการพัฒนามาจากรูปแบบอักษรที่เขียนด้วยมือ ลักษณะเด่นอยู่ที่หาง
ที่มา: http://www.identifont.com |
ที่มา: http://wikis.lib.ncsu.edu |
ที่มา: http://www.suitcasetype.com |
ที่มา: http://stylecrave.com/ที่มา: http://farm4.static.flickr.com/ที่มา: http://2.bp.blogsport.com |
ประเภทตัวธรรมดา(normal/regular)/ ประเภทตัวหนา( bold)/ ประเภทตัวเอียง( italic)/ ประเภทตัวหนาพิเศษ(extra)/ ประเภทตัวบางพิเศษ(light)/ ประเภทตัวกว้างพิเศษ(extended)/ ประเภทตัวแคบพิเศษ(narrow)/ ตัวอักษรแบบมีขอบ(outline)/ ตัวอักษรตัวใหญ่หมด(allcaps)
ลักษณะตัวอักษรของไทย
1. แบบดั้งเดิม หรือแบบมีหัว เป็นเอกลักษณ์ของภาษาไทยแสดงความเป็นทางการ คล้าย serif ใช้ได้กับหัวเรื่องและเนื้อเรื่อง
2. แบบหัวตัด คล้าย sanserif ดูเรียบง่ายใช้กับงานที่ทันสมัย
3. แบบลายมือ เลียนแบบตัวอักษรที่เขียนด้วยมือ สนุกสนาน ไร้กฎเกณฑ์ เหมือนกับแบบ script
4. แบบคัดลายมือ เกิดจากการคัดลายมือด้วยตัวอักษรโบราณที่มีหัวแหลม ให้ความรู้สึกเป็นทางการ พิธีรีตรองหรือ อนุรักษ์นิยม
5. แบบประดิษฐ์ คล้ายแบบ display ใช้ในงานต่างๆเพื่อเรียกร้องความสนใจ ให้ความรู้สึกหลากหลาย
การจัดวางตัวอักษร(spacing): ระยะห่างระหว่างตัวอักษร(letter spacing)/ ระยะห่างระหว่างคำ(word spacing)/ ระยะห่างระหว่างบรรทัด(leading)
การจัดวางหน้ากระดาษ(arranging): วางตัวอักษรเสมอซ้าย(flush left)/ วางตัวอักษรเสมอขวา(flush right)/ วางตัวอักษรตรงกลาง(centered)/ วางตัวอักษรเสมอซ้ายและขวา(justified)/ วางตัวอักษรให้สอดคล้องกับลักษณะของภาพ(contour)/ วางตัวอักษรเป็นรูปร่างตามต้องการ(concrete)/ วางตัวอักษรแบบมีทิศทาง(direction)
ผศ. วรพงศ์ วรชาติอุดมพงศ์. บทความรู้ทางการออกแบบพาณิชย์ศิลป์ ออกแบบกราฟฟิก(กรุงเทพฯ:สำนักพมพ์ศิลปาบรรณาคาร). 2540 หน้า 170-176
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น